หารายได้ผ่านเน็ต
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

ข่าวกีฬา

กลับหน้าแรก


แบล็คพูล ไล่แซงคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-2 ชิงตั๋วไปเตะ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า

May 23, 2010 

วันเสาร์ที่ 22 พ.ค. ศึกฟุตบอล เดอะ แชมเปียนชิพ อังกฤษ รอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันของ “บลูเบิร์ด” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ มาในรอบที่แล้ว พบกับ แบล็คพูล ที่ชนะ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ มา 

เริ่มเกมขึ้นมานาที 9 เป็น คาร์ดิฟฟ์ ขึ้นนำได้ก่อนตามฟอร์มโดย ปีเตอร์ วิตติงแฮม แทงบอลให้ ไมเคิล โชปรา หลุดเข้าไปซัดให้ บลูเบิร์ด ขึ้นนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม แม้จะเสียประตูเร็ว แต่ แบล็คพูล ไม่เสียขวัญ มาตีเสมอได้อย่างรวดเร็วในนาที 13 ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์ตัวเก่ง ซัดฟรีคิกเข้าประตูไปอย่างงดงามหยดย้อย ให้ทีมไล่ขึ้นมาเป็น 1-1 ต่อมานาที 37 วิตติงแฮม จ่ายบอลให้ โจ เล็ดลีย์ ซัดประตูให้ คาร์ดิฟฟ์ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 อย่างไรก็ตาม หลังนำได้ไม่ทันไร นาที 41 ต่อ แกรี เทยเลอร์-เฟลตเชอร์ ก็มาซัลโวประตู ช่วยให้ แบล็กพูล ไล่ตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 และเหมือนจะจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบร็ด ออร์เมร็อด ก็มายิงประตูให้ แบล็กพูล แซงขึ้นนำเป็นครั้งแรก 3-2 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

กลับมาเล่นครึ่งหลัง คาร์ดิฟฟ์ พยายามเดินเครื่องบุกลุ้นทำประตูตีเสมอ แต่ยังได้แค่เสียว ก่อนจบเกมเป็น แบล็คพูล ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-2 คว้าตั๋วใบสุดท้าย ไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าสำเร็จ เป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี


----------------------------------------------------------------------------------------------------



มิลิโต ซัดสองประตูชัยให้ ‘อินเตอร์’ เชือด ‘บาเยิร์น’ 2-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครอง

May 23, 2010 

วันเสาร์ที่ 22 พ.ค. ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2009/2010 เป็นการพบกันของสองดับเบิลแชมป์ โดย “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์บุนเดสลีกา และเดเอฟเบ โพคาล จากเยอรมัน ลงเล่นในซานติอาโก เบอร์นาเบว กรุงมาดริด ประเทศสเปน พบกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ทีมแชมป์กัลโช ซีรีเอ และโคปปา อิตาเลีย จากอิตาลี 

สภาพทีมของทั้งสองทีม ทาง บาเยิร์น มีปัญหาเพียงตำแหน่งเดียวคือ การขาดหายไปของ ฟรองก์ ริเบรี ปีกตัวเก่งที่ติดโทษแบน ทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ต้องส่ง ฮามิต อัลตินท็อป ลงสนามแทน ด้าน อินเตอร์ ยังมาในระบบ 4-3-3 เช่นเคย ซึ่งเกมนี้จะไม่มี ติอาโก ม็อตตา ที่โดนแบน หลังโดนใบแดงในนัดที่แล้วกับ บาร์เซโลนา

เริ่มเกมมาต้องรอจนถึงนาทีที่ 34 จึงมีประตูแรกเกิดขึ้นกลายเป็น อินเตอร์ ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะลูกตั้งเตะของ ชูลิโอ เซซาร์ เปิดบอลยาวมาถึง ดีเอโก มิลโต โขกให้ สไนจ์เดอร์ ก่อนที่ สไนจ์เดอร์ จะไหลบอลคืนให้ มิลิโต หลุดเข้าเขตโทษ ไปซัดผ่านตัว บุทท์ เข้าตุงตาข่ายให้ทีมขึ้นนำ 1-0 แล้วก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

เริ่มเกมครึ่งหลังมานาทีแรก ต้องบอกว่า เสือใต้ น่าตีเสมอได้สุดๆ อัลตินท็อป ไหลบอลให้ มุลเลอร์ วิ่งเข้ามาล้มตัวยิงในเขตโทษ บอลยังไม่ผ่าน เซซาร์ แล้วอีกอึดใจต่อมา เป็นจังหวะแลกหมัดของ อินเตอร์ เมื่อ มิลิโต ขึ้นบอลทางด้านซ้าย ก่อนลากไปจนสุดเส้นหลัง แล้วตบมาหน้าประตูให้ โกรัน ปานเดฟ ปั่นบอลกำลังจะเสียบตาข่ายอยู่แล้ว แต่ บุทท์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งใช้ปลายนิ้วปัดออกหลังไปได้

งูใหญ่ หลังตั้งรับอยู่นาน เกมโต้กลับนาที 67 ทีมก็มาได้ประตูที่สอง มิลิโต ได้จังหวะลากจี้ดวลกับ ดาเนียล ฟาย บุยเต็น ก่อนโยกหลอก จนหลุดเข้าเขตโทษ แล้วแปผ่านตัว บุทท์ บอลเสียบตาข่ายให้ อินเตอร์ นำห่างเป็น 2-0

ช่วงที่เหลือ บาเยิร์น พยายามเดินเครื่องเกมรุกใส่ อินเตอร์ แต่ก็ไม่สามารถเจาะประตูได้ ก่อนที่ลูกทีมของ โจเซ มูรินโญ จะรักษาสกอร์เอาไว้จนจบเกม ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น 2-0 คว้าถ้วย ‘บิ๊กเอียร์’ ของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ไปครอง รวมถึงยังนับเป็นการคว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งแรกด้วย

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

บาเยิร์น มิวนิค : ฮันท์-ยอร์ก บุทท์, มาร์ติน เดมิเคลิส, ดาเนียล ฟาย บุยเต็น, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, ฮามิต อัลตินท็อป, อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, อิวิกา โอลิช

อินเตอร์ มิลาน : ชูลิโอ เซซาร์, วอลเตอร์ ซามูเอล, ลูซิโอ, คริสเตียน คิวู, ไมคอน, เอสเตบัน คัมบิอัสโซ, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, ดีเอโก มิลิโต, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, โกรัน ปานเดฟ, ซามูแอล เอโต


---------------------------------------------------------------------------------------------------


ประธาน ‘ปืนใหญ่’ เผย ไม่มีข้อเสนอจาก บาร์ซ่า ในการซื้อ ‘เชส ฟาเบรกัส’

May 22, 2010 

วันเสาร์ที่ 22 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การย้ายทีมของ เชส ฟาเบรกัส มิดฟิลด์กัปตันทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ยังคงยืดเยื้อต่อไป แม้จะมีรายงานจากวงใน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เจ้าตัวได้เข้าเคลียร์อนาคตกับ อาร์แซน เวงเกอร์ ผู้เป็นเจ้านายเรียบร้อยแล้วว่า ต้องการย้ายกลับไปเล่นกับ บาร์เซโลนา ทีมเก่าสมัยเป็นนักเตะเยาวชนอีกครั้ง ซึ่งตรงกับความต้องการของ “เจ้าบุญทุ่ม” ที่่ป่าวประกาศมาตลอดว่า ต้องการดึงตัว ฟาเบรกัส กลับไปเล่นในถิ่นคัมป์นู 

ขณะที่มีการคาดหมายว่า บาร์เซโลนา จำเป็นจะต้องทุ่มเงินกว่า 45 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าตัวในการดึงตัว ฟาเบรกัส ไปร่วมทีม แต่อย่างไรก็ตาม ทางด้านของ ปีเตอร์ ฮิลล์-วูด กลับยืนยันว่า ตอนนี้ทางทีมแชมป์สเปน ยังไม่ได้ติดต่อเจรจาอะไรเข้ามาทั้งสิ้น “เราไม่ได้ยินอะไรจาก บาร์เซโลนา เลยนะ” ฟาเบรกัส ถือเป็นลูกหม้อของ บาร์เซโลนา มาตั้งแต่เป็นสมัยนักเตะเยาวชน ก่อนจะโดน อาร์เซนอล ดึงตัวมาร่วมทีม ตอนอายุ 16 ปี ก่อนปลุกปั้นต่อขึ้นมา จนก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ และกลายเป็นกัปตันทีมต่อมาในที่สุด


---------------------------------------------------------------------------------------------------


ยูฟ่า เลือกแล้ว กรรมการนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันเสาร์นี้

May 21, 2010 

วันศุกร์ที่ 21 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ยูฟ่า เผยทีมผู้ตัดสิน เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก วันเสาร์ที่ 22 พ.ค.นี้ ระหว่าง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก พบกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ที่สนามซานติอาโก เบอร์นาเบว กรุงมาดริด ประเทศสเปน ออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยเป็น โฮเวิร์ด เว็บบ์ มือเปาอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้รับเกียรติดังกล่าว  

ขณะที่ทีมผู้ตัดสินที่เหลือ จะมาจากอังกฤษทั้งหมด โดยไลน์แมน เป็นหน้าที่ของ ไมเคิล มุลลาร์คีย์ และ ดาร์เรน คานน์ ขณะที่ มาร์ติน แอตกินสัน จะรับบทผู้ตัดสินที่สี่

ทั้งนี้ เว็บบ์ วัย 38 ปี เคยทำหน้าที่ในเกมแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2009/2010 มาแล้ว 6 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ ซีเอสเคเอ มอสโก โดยที่เกมดังกล่าว ทีม “งูใหญ่” เป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะไป 1-0


----------------------------------------------------------------------------------------------------


แฟน ‘งูใหญ่’ เศร้า หลัง มูรินโญ ได้กล่าวลาตำแหน่งหลังจบฤดูกาล

May 23, 2010 

วันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ควันหลงเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-0 คว้าแชมป์มาครองให้แฟนบอลได้ฉลองสำเร็จ แต่ล่าสุด ก็มีข่าวร้ายตามมา สำหรับสาวก “งูใหญ่” เมื่อ โจเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม ได้ออกมายืนยันว่า จะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า ต้องการไปหาแรงจูงใจใหม่ๆ โดยเฉพาะกับการคุมทีม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่ดึงดูดตัวเขาเป็นอย่างมาก  

“งานของผมที่นี่เสร็จแล้ว ผมสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองร่วมกับสโมสรแห่งนี้ และผมก็ต้องการออกไปหาแรงจูงใจกับทีมใหญ่ทีมอื่นๆ ต่อไป บางทีอาจจะเป็นการดวลกับ บาร์เซโลนา ที่สเปน ผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากเลยนะ ผมมีความสุขมากกับ อินเตอร์ แต่ไม่ใช่กับวงการฟุตบอลอิตาลี เพราะผมไม่ชอบเลยกับคำพูดของพวกประธานสโมสร, โค้ช หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งหลาย แต่แน่นอนว่า ผมจะชอบ อินเตอร์ ตลอดไป ผมอยากจะขอบคุณกับฟุตบอลอิตาลี เพราะผมเป็นโค้ชที่ดีขึ้นได้ก็เพราะที่นี่ ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ผมจะใช้เวลาคิดสักหนึ่งหรือสองวัน เกี่ยวกับความท้าทายครั้งใหม่ ในประเทศอื่นๆ ต่อไป ผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับทีมแล้ว ดังนั้นผมจึงเป็นอิสระที่จะตัดสินใจอนาคตของตัวเอง ผมต้องการเป็นโค้ชคนแรกที่ทำทีมคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกกับสามสโมสร และ เรอัล มาดริด ก็เป็นทีมเดียวเท่านั้นที่ผมสนใจ แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรกันทั้งสิ้น” มูรินโญ กล่าว


----------------------------------------------------------------------------------------------------


‘เสือใต้’ ฟอร์มโหดถล่ม ‘นกนางนวล’ 4-0 คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล เยอรมนี

May 16, 2010 

วันเสาร์ที่ 15 พ.ค. ศึกฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล เยอรมัน นัดชิงชนะเลิศ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก เจ้าของแชมป์ 14 สมัย ที่เพิ่งคว้าถาดแชมป์ลีกบุนเดสลีกามาหมาดๆ ผ่านเข้ามาเจอกับ “นกนางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน แชมป์เก่ารายการนี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

เริ่มเกมมา กระทั่งนาที 35 เป็น บาเยิร์น ได้ประตูขึ้นนำก่อน เมื่อ เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์ กองหลัง เบรเมน ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ และเป็น อาร์เยน ร็อบเบน สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เสือใต้ ขึ้นนำ 1-0 ช่วงที่เหลือของครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้

กลับมาเล่นครึ่งหลังนาที 52 บาเยิร์น ก็มาได้ประตูนำห่างลูกที่สอง จากจังหวะลูกเตะมุมของ ร็อบเบน เปิดเข้ามาให้ อิวิกา โอลิช ซัดตุงตาข่าย สกอร์เพิ่มเป็น 2-0 ต่อมานาที 63 สกอร์ยิ่งไหล เมื่อ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายให้ ฟรองค์ ริเบรี ลากบอลไปซัดผ่านมือ ทิม วีเซ ไม่เหลือเป็น 3-0 ขณะที่นาที 77 สถานการณ์ของ เบรเมน ยิ่งมาย่ำแย่ลงไปอีก ทอร์สเท่น ฟริงก์ส ไปทำฟาลว์ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ จนโดนใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ท้ายเกมนาที 83 บาเยิร์น ที่ตัวเหนือกว่า ก็มาได้ประตูตอกฝาโลง จาก ชไวสไตน์เกอร์ ก่อนจบเกม เป็น บาเยิร์น ไล่ยำใหญ่ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-0 คว้าแชป์เดเอฟเบ โพคาล สมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์ในสโมสร และเป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นครั้งที่ 8 ก่อนรอลุ้นทำเทรบเบิลแชมป์ครั้งแรก ด้วยการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน วันที่ 22 พ.ค.นี้ต่อไป

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

บาเยิร์น มิวนิก : ฮันท์ ยอร์ก บุทท์, มาร์ติน เดมิเคลิส, ดาเนียล ฟาย บุยเต็น, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์, มาร์ค ฟาน บอมเมล,ฟรองก์ ริเบรี, อาร์เยน ร็อบเบน, อิวิกา โอลิช, โธมัส มุลเลอร์

แวร์เดอร์ เบรเมน : ทิม วีเซ, นาลโด, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, เซบาสเตียน โบนิช, เคลเมนต์ ฟิตซ์, ทอร์สเทน ฟริงกส์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด, ทิม โบรอฟสกี, อารอน ฮันท์, เฆซุส โอซิล, เคลาดิโอ ปิซาร์โร


---------------------------------------------------------------------------------------------------


อินเตอร์ และ โรมา เก็บชัยได้ทั้งคู่ ชี้ขาดถึงนัดสุดท้าย 16 พ.ค.

May 10, 2010 

วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. ศึกฟุตบอลกัลโช ซีรีเอ อิตาลี นัดรองสุดท้าย เล่นพร้อมกันทั้งหมด คู่สำคัญอยู่ที่ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ทีมจ่าฝูงเปิดสนามซานซีโร รับการมาเยือนของ คิเอโว ทีมอันดับ 12 ของตาราง โดยก่อนลงสนาม อินเตอร์ มีคะแนน 76 แต้ม จากการลงเล่น 36 นัด เหนืออันดับสอง โรมา ที่มี 74 แต้ม อยู่ 2 คะแนน 

เริ่มเกมมานาที 12 กลับกลายแฟนบอลเจ้าบ้านต้องเงียบกริบทั้งสนาม หลังเสียประตูโดนขึ้นนำก่อน เมื่อ ติอาโก ม็อตตา ทำเข้าประตูตัวเอง งูใหญ่ เลยเสียท่าโดน คิเอโว นำ 1-0 ต่อมา อินเตอร์ ได้เฮบ้าง เมื่อมาได้ประตูตีเสมอทันควัน อันเดรีย มานโตวานี นักเตะ คิเอโว มาสงเคราะห์ยิงเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นประตูเสมอให้เจ้าถิ่น 1-1

จากนั้นนาที 34 อินเตอร์ มาแซงขึ้นนำสำเร็จ ไมคอน เติมขึ้นมาเปิดบอลไปหน้าประตูให้ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ แปบอลย้อนเข้าเสาแรกให้เจ้าถิ่นออกนำ 2-1 แถมหลังจากนั้น งูใหญ่ เกมยิ่งไหลลื่น และอีกเพียง 5 นาที ก็มาบวกเพิ่มลูกที่สาม ดีเอโก มิลิโต โชว์เหนือชั้น ชิพบอลจากนอกกรอบ บอลแฉลบกองหลัง คิเอโว ลอยข้ามหัว สเตฟาโน ซอร์เรนติโน เข้าประตูไปให้สกอร์ไหลเป็น 3-1 ก่อนหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

กลับมาเล่นครึ่งหลังนาที 52 ไมคอน วางบอลจากกลางสนามให้ มาริโอ บาโลเตลลี หลุดเดี่ยวไปกระดกบอลข้ามตัว ซอร์เรนติโน เข้าประตูไปแบบนิ่มๆ อินเตอร์ ทิ้งห่างไปไกล 4-1

คิเอโว แม้จะไม่มีลุ้นอะไรแล้ว แต่ยังเล่นเต็มที่ แถมยังมายิงตีตื้นได้อีกหนึ่งลูกในนาที 60 จากจังหวะที่ มิเคเล มาโคลินี ยิงไกลมาเข้าทาง เปาโล กราโนเช สะกิดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ทีมเยือนไล่มา 4-2 ต่อ มาอินเตอร์มาทำพลาดโดน คิเอโว ยิงไล่ตีตื้นอีกหนึ่งลูก ไมคอน จ่ายบอลพลาดโดน แซร์โจ เปลลิสซิเยร์ ฉกไปล่อเป้าผ่านมือ ชูลิโอ เซซาร์ เข้าประตูไปให้เกมเริ่มมีลุ้นเป็น 4-3 แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการณ์ เมื่อเจ้าถิ่นเน้นรักษาสกอร์ไว้ได้จนหมดเวลา เอาชนะไปได้ 4-3

ส่วนเกมระหว่าง “หมาป่าเหลือง-แดง” โรมา เปิดรังสตาดิโอ โอลิมปิโก รับการมาเยือนของ กายารี ทีมอันดับ 13 ปรากฏว่า เจ้าถิ่นรอดตายหวุดหวิด หลังไล่แซงเอาชนะ 2-1 จากที่โดนออกนำก่อน 1-0 จากประตูของ อันเดรีย ลัซซาร์รี นาที 73 แต่ ฟรานเชสโก ต็อตติ ก็เหมายิงคนเดียวสองประตูในนาที 79 และจุดโทษนาที 83 ช่วยทีมคว้าสามแต้มแบบหืดขึ้นคอ ก่อนรักษาโอกาสลุ้นแชมป์ไว้ได้จนถึงนัดสุดท้าย

สรุปตารางคะแนน กัลโช ซีรีเอ อิตาลี หลังจบโปรแกรมวันที่ 9 พ.ค. ทีมจ่าฝูง อินเตอร์ มิลาน จะมีคะแนนเพิ่มเป็น 79 แต้มจาก 37 นัด นำ โรมา ที่มี 77 แต้มอยู่ 2 คะแนน ทำให้ทั้งสองทีมต้องไปตัดสินแชมป์กันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล วันที่ 16 พ.ค.นี้ โดย อินเตอร์ จะออกไปเยือน เซียนา ซึ่งตกชั้นแน่นอนแล้ว ส่วน โรมา บุกรัง คิเอโว

สรุปผล ฟุตบอล กัลโช ซีรีเอ อิตาลี วันที่ 9 พ.ค.

โรมา 2-1 กายารี
โบโลญญา 1-1 คาตาเนีย
ฟิออเรนติ นา 1-1 เซียนา
เจนัว 1-0 เอซี มิลาน
อินเตอร์ มิลาน 4-3 คิเอโว
ยู เวนตุส 2-3 ปาร์มา
ลิวอร์โน 1-2 ลาซิโอ
นาโปลี 2-0 อตาลันตา
ปาแล ร์โม 1-1 ซามพ์โดเรีย
อูดิเนเซ 3-3 บารี


---------------------------------------------------------------------------------------------------


เนิร์นแบร์ก เปิดรังเฉือน เอาก์สบวร์ก 1-0 เกม เพลย์ออฟ บุนเดสลีกานัดแรก

May 14, 2010

วัน พฤหัสบดีที่ 13 พ.ค. ศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี รอบเพลย์ออฟ หาทีมเลื่อนชั้น-ตกชั้น โดยจับเอาทีมอันดับที่ 16 ของบุนเดสลีกา อย่าง เนิร์นแบร์ก มาพบกับ เอาก์สบวร์ก ทีมอันดับ 3 ของลีกาสอง เล่นกันในระบบเหย้า-เยือน ซึ่งนัดแรกเป็น เนิร์นแบร์ก เล่นในรัง อีซีเครดิต สตาดิโอน ก่อน 

เปิด เกมครึ่งแรกมาส่วนใหญ่เป็นเจ้าถิ่น เนิร์นแบร์ก ที่เกมเหนือกว่า พยายามเข้าทำประตูตลอด แต่ยังไม่คมพอ จนกระทั่งจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 จากนั้นครึ่งหลัง เล่นมาถึงนาที 67 เนิร์นแบร์ก มาได้โอกาสทองที่จะทำประตูขึ้นนำ เมื่อ โยนาส เด เริค ไปทำฟาลว์ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ แต่ อัลเบิร์ต บุนยาคู ที่รับหน้าที่เพชรฆาต กลับซัดไปให้ ไซมอน เยนซ์ นายทวาร เอาก์สบวร์ก เซฟไว้ได้ เจ้าบ้านเลยชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากนั้น เนิร์นแบร์ก ยังคงเจาะประตู เอาก์สบวร์ก ไม่เข้า จนกระทั่งนาที 84 แฟนๆ เจ้าบ้านก็ได้เฮลั่น เมื่อ มาร์เซล ริสเซ เปิดฟรีคิกไปเข้าหัว คริสเตียน ไอก์เลอร์ โฉบโหม่งตุงตาข่าย กลายเป็นประตูชัย ช่วยให้สุดท้าย เนิร์นแบร์ก เป็นฝ่ายเปิดบ้านเฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0


----------------------------------------------------------------------------------------------------


ฮอลแลนด์ ประเดิมอุ่นเครื่องสวย เฉือนชนะ เม็กซิโก 2-1 ขณะที่ ฝรั่งเศส ไล่แซง คอสตาริกา 2-1

May 27, 2010 

วันพุธที่ 26 พ.ค. เกมฟุตบอลอุ่นเครื่อง ก่อนสู้ศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่แอฟริกาใต้ คู่ที่น่าสนใจอยู่ที่สนามบาเดโนวา สตาดิโอน ประเทศเยอรมนี ทีม “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ลงสนามพบกับขุนพล “จังโก้” เม็กซิโก 

นัดนี้ กุนซือ เบิร์ท ฟาน มาร์ไวก์ ของฮอลแลนด์ ตัดสินใจยังไม่ใช้งานสามนักเตะอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน, มาร์ค ฟาน บอมเมล และ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ที่เพิ่งลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาหมาดๆ ขณะที่ เม็กซิโก ทาง ฮาเวียร์ อากีร์เร เปลี่ยนทีมจากเกมแพ้ อังกฤษ เกือบยกชุด นำโดย ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ กองหน้าตัวใหม่ของทีม แมนฯยู

เริ่มเกมมานาที 8 ฮอลแลนด์ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ เดิร์ก เคาท์ เหมือนจะจับบอลที่เพื่อนส่งมาให้ไม่ดี แต่ลูกยังมาเข้าทาง ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท วิ่งเข้ามาสวนจากนอกเขตโทษด้วยซ้ายตูมเดียว บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ช่วงแรกเป็น ฮอลแลนด์ ที่ดูเหนือกว่าพอสมควร รวมถึงมีโอกาสเจาะลุ้นประตูหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมกันเอง จนกระทั่งมาถึงนาที 17 ทีมอัศวินสีส้ม ก็เบิกสกอร์ขึ้นนำสำเร็จ เมื่อ ฟาน เดอ ฟาร์ท เปิดบอลเข้าเขตโทษ แล้ว กิลเยร์โม โอชัว โกล์เม็กซิโก ไปลื่นล้ม โรบิน ฟาน เพอร์ซี เลยได้ส้มหล่น ซัดบอลโล่งๆ ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ ให้ ฮอลแลนด์ นำ 1-0

หลังเสียประตู ก็กลับกลายเป็น ฮอลแลนด์ ที่ได้ประตูนำห่างลูกที่สอง เมื่อ อิบราฮิม อเฟลเลย์ วางบอลให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าเขตโทษไปวอลเลย์แบบไม่ต้องจับ ลูกเลียดเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมนำห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

จากนั้นกลับมาเล่นครึ่งหลัง ฆาเบียร์ อากีร์เร ไปแก้เกมมาใหม่ เกมของทีมจังโก้ เริ่มดีขึ้น จนมาได้ประตูตีตื้นในนาที 74 ฮอร์เก ตอร์เรส นิโล แบ็คซ้ายเติมขึ้นมาเปิดบอลให้ ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ เทกตัวโขกเข้าไปให้ เม็กซิโก ไล่ 2-1 แต่ช่วงที่เหลือก็กลับไม่ทันการณ์ เมื่อ ฮอลแลนด์ สามารถรักษาสกอร์เอาไว้จนจบเกม ก่อนเอาชนะไป 2-1

ขณะที่อีกคู่ที่น่าสนใจ “ตราไก่”ทีมชาติฝรั่งเศส ลงลับแข้งกับ “กล้วยหอม” คอสตาริกา ที่สนามสต๊าด เฟลิกซ์ โบลาร์ ซึ่งเกมนี้แม้ดูเผินๆ จะต่างกันค่อนข้างเยอะ แต่กลับกลายเป็น คอสตาริกา ทำช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น ฉวยขึ้นนำไปก่อน ในนาทีที่ 10 เมื่อ คาร์ลอส เฮอร์นานเดซ ซัดไกลจากนอกเขตโทษเข้าไปให้ทีมนำ 1-0

หลังเสียประตู ฝรั่งเศส กลับมาเดินหน้าล่าประตูตีเสมอ จนมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 21 จากการซัลโวของ ฟรองก์ ริเบรี ช่วยให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

จากนั้นเกมทีมตราไก่ เหนือกว่า แต่ยังเจาะไม่เข้า กระทั่งเกมดำเนินมาถึงช่วงท้ายเกมนาที 83 มาติเยอ วัลบูเอนา มิดฟิลด์ตัวสำรอง ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ซิดเนย์ โกวู ก็กลายเป็นซูเปอร์ซับ เมื่อส่องจากนอกเขตโทษ ผ่านมือ เคย์เลอร์ นาวาส นายด่านทีมเยือนเข้าไปเป็นประตูชัย ช่วยให้ ฝรั่งเศส ไม่เสียหน้า ไล่แซงเอาชนะ คอสตาริกา 2-1

สรุปผล ฟุตบอล อุ่นเครื่อง วันที่ 26 พ.ค.

อาร์เซอร์ไบจัน 1-1 มอลโดวา
สหรัฐฯ 2-4 สาธารณรัฐเช็ก
ฮอลแลนด์ 2-1 เม็กซิโก
ไอร์แลนด์เหนือ 0-2 ตุรกี
เอสโตเนีย 0-0 โครเอเชีย
ฝรั่งเศส 2-1 คอสตาริกา


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 3,915 Today: 2 PageView/Month: 23

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...